986 views
ที่มา pizza company เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เปิดตัวสู่ตลาดในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2544 สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดด้วยการสร้างสรรค์เมนูพิซซ่าที่มีความหลากหลาย
ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น จึงรับประกันได้ว่าพิซซ่านั้นมีความกรอบและการผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว โดยวัตถุดิบหลักที่สำคัญ คือชีสคุณภาพดีเยี่ยมที่ผลิตจากนมสด 100% เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ได้สร้างความประทับใจในรสชาติให้กับลูกค้าด้วยการส่งมอบเมนูพิซซ่าอบที่ท่วมท้นด้วยท้อปปิ้งให้เลือกกว่า 30 รายการ ความหลากหลายของเมนู รสชาติที่ได้รับการสรรค์สร้าง ผสมผสานกับชีสคุณภาพ ชวนยั่วน้ำลาย เรียกเสียงท้องร้อง ดึงดูดใจให้ลูกค้าคนไทยเข้ามาลิ้มลอง สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
ทั้งหมดนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารไปอีกขั้น ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นนักสู้ ความเป็นผู้นำ และด้วยความตั้งใจของทีมงาน ทำให้ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ทะยานสู่ความสำเร็จด้วยการเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว ความภาคภูมิใจของแบรนด์ในการเสิร์ฟรสชาติที่ดีที่สุด ทำให้พิซซ่าของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี
กลายเป็นเมนูโปรดในทุกมื้ออาหารสุดพิเศษ จากความใส่ใจและความหลงใหลที่มีต่อรสชาติอาหารที่เหนือกว่า รวมถึงท้อปปิ้งที่หลากหลาย ทำให้เดอะ พิซซ่า คอมปะนีเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขามากกว่า 500 แห่งใน 10 ประเทศทั่วโลกที่ดำเนินการเพื่อรองรับความต้องการของคนรักพิซซ่าทุกคน
(: The Pizza Company) เป็นร้านอาหารประเภทพิซซ่า มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 1981 ครั้งเป็นบริษัทผู้รับเฟรนไชส์ของพิซซ่าฮัทของประเทศไทย ต่อมาในปี 2001 หมดสัญญากับทางพิซซ่าฮัท ทำให้ จึงหันมาทำร้านพิซซ่าเป็นของตัวเองในชื่อ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
โดยมีแฟรนไชส์ในหลายประเทศ บริหารโดยบริษัทที่กทม ซึ่งในปัจจุบันนั้น The Pizza Company เปิดให้สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ได้แล้ว และสำหรับในประเทศไทยนั้น สามารถสั่งผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1112
พิซซ่าถือเป็นอาหารคลาสสิคที่ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยให้ความนิยมสูงมาก อาจจะด้วยการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาก่อให้เกิดความนิยมถึงขนาดที่ตลาดพิซซ่าเมืองไทยต้องมีการแย่งส่วนแบ่งการตลาดกันเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับ 2 แบรนด์ใหญ่อย่าง Pizza Hut และ The Pizza Company
แน่นอนว่าทั้ง 2 แบรนด์เราคุ้นเคยกันดีแต่ดูเหมือนว่า The Pizza Company จะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาเรามากกว่าในขณะที่ชื่อของ Pizza Hut อาจจะอยู่ในความทรงจำของเรามากกว่าเช่นกัน ซึ่งเส้นทางของ 2 แบรนด์ใหญ่นี้มีที่มาเชิงธุรกิจที่น่าสนใจพอดู
ใช้คำว่าจาก “มิตรกลายเป็นคู่แข่ง” ได้เต็มปากเต็มคำ ย้อนไปประมาณ 37 ปีก่อน “มร.วิลเลียม อี ไฮเน็ค” นักธุรกิจเชื้อชาติอเมริกัน สัญชาติไทย ผู้ก่อตั้งอาณาจักร “กลุ่มบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Minor International) ได้สิทธิ์มาสเตอร์ แฟรนไชส์แบรนด์ “Pizza Hut” ในประเทศไทยจาก “Tricon Global Restaurants” ผลปรากฏว่า “Pizza Hut” ได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย ทำให้กลุ่มไมเนอร์ เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง แต่แล้วจากธุรกิจที่โตวันโตคืน มีอนาคตสดใส กลับต้องสะดุดลงครั้งใหญ่! เมื่อ “Tricon Global Restaurants” ต้องการเอาแบรนด์ “Pizza Hut” กลับไปทำเอง
โดยจุดชนวนสายสัมพันธ์ร้าวเกิดขึ้นในปี 2542 เมื่อ “Tricon Global Restaurants” ประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินธุรกิจและขยายกิจการ Pizza Hut
ในไทยด้วยตนเอง ก่อนที่สัญญามาสเตอร์ แฟรนไชส์ที่ให้กับ “กลุ่มไมเนอร์” จะสิ้นสุดลงในปี 2543 เหตุการณ์ดังกล่าวได้ปิดฉากสัมพันธ์ที่มีมายาวนาน พร้อมๆ กับเป็นปฐมบทเริ่มต้นสงครามการแข่งขันระหว่างสองเชนร้านพิซซ่ารายใหญ่ในไทย ระหว่าง Pizza Hut ของ Yum! Brands Inc. (เปลี่ยนชื่อมาจาก Tricon Global Restaurants) และ The Pizza Company ของฝั่ง Minor The Pizza Company เปิดตัวครั้งแรกในปี 2544 หลังจากแยกทางเดินกับ Pizza Hut ฝั่ง Minor
ตัดสินใจเปิดแบรนด์ร้านพิซซ่าของตัวเองในนาม The Pizza Company ในปี 2544 เรียกว่าเป็นการปลดป้ายเก่าของ Pizza Hut ออกและขึ้นป้ายใหม่เพราะผลการตัดสินจากการฟ้องร้องนั้น สรุปว่าสาขาที่มีในขณะนั้นประมาณ 80 สาขาจากการบริหารร่วมกันเป็นทรัพย์สินของทาง Minor ส่งผลให้ Pizza Hut ต้องไปเริ่มสร้างสาขาแรกของตัวเองเช่นกัน
สร้างกระแสเปิดตัวด้วย คาราวานพิซซ่ากว่า 1,000 คัน หนึ่งในกลยุทธ์เพื่อเปิดตัวแบรนด์ The Pizza Company ให้คนรู้จักและจดจำอย่างรวดเร็ว นอกจากการแถลงข่าวและงานเปิดตัวภายในองค์กรอย่างยิ่งใหญ่ มร.วิลเลียม อี. ไฮเนคกี้ และทีมผู้บริหาร ยังได้ปล่อยตัวคาราวานพนักงานส่งพิซซ่ากว่า 1,000 คัน ขี่วนรอบย่านสยามสแควร์ บริเวณแยกปทุมวัน ไปจนถึงถนนพระราม 1 เพื่อสร้างกระแส Talk of the town ถึงการเริ่มต้นพิซซ่าแบรนด์ใหม่ ผู้บุกเบิกแคมเปญ “ซื้อ 1 แถม 1” เราจะเห็นว่าร้านพิซซ่าปัจจุบันมีแคมเปญ ซื้อ 1 แถม 1 แทบจะทุกที่ แต่ถ้าพูดถึงผู้บุกเบิกแคมเปญนี้ต้องยกให้ The Pizza Company
ซึ่งจะจัด ขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม กระทั่งทุกวันนี้กลายเป็น Signature Campaign ที่อยู่คู่กับแบรนด์ The Pizza Company และเป็นกลยุทธ์สร้างการเติบโตให้กับยอดขาย อีกทั้งเป็นการสร้างเกมการแข่งขันใหม่ในตลาดพิซซ่าเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ที่ทำให้คู่แข่งในธุรกิจเดียวกันต้องเดินตามและจากแคมเปญดังกล่าวทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ทุกปี หรือเดือนเดียวสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท
มีสาขามากกว่า 330 แห่งใน 67 จังหวัด The Pizza Company ให้ความสำคัญกับการขยายสาขาเพราะเชื่อมั่นว่าคือหัวใจสำเร็จของธุรกิจนี้ที่ยิ่งมีสาขามากเท่าไหร่ ยิ่งสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ปัจจุบัน “The Pizza Company” มีสาขา 330 สาขา ใน 67 จังหวัด และขยายกิจการไปยังตลาดต่างประเทศ หลักๆ อยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง รวมแล้ว 8 ประเทศ
ซึ่งอัตราการขยายสาขาในประเทศ อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 10 สาขาต่อปี รูปแบบการขยายสาขาของ The Pizza Company การขยายสาขา The Pizza Company ในไทย แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Full Service Restaurant ที่พัฒนาคอนเซ็ปต์ให้เป็น Dining Experience Delco หรือ สาขาย่อย สำหรับรองรับบริการ Delivery
โดยใช้อาคารพาณิชย์ที่อยู่ตามชุมชนต่างๆ ออกแบบเป็นสาขาลักษณะนี้ Delco พร้อมมีที่นั่งรับประทาน เน้นขยายเข้าไปตาม Community Mall และอาคารสำนักงาน เพื่อรองรับทั้งบริการ Delivery และสำหรับลูกค้าที่อยากนั่งรับประทานที่ร้านได้เลย
อ่านเพิ่มเติม วิธีการใช้งานJOBBKK
รีวิว Longdo Dict พจนานุกรมออนไลน์ยอดนิยมของไทยเรา
Joker Gamimg pg slot pg slot Jokergame สล็อต slot Slotxosuperslot,JOKER SLOT ONLINE,บาคาร่า,UFABET,SLOT2PLAY,bearbaccarat,slotreview,betufacasino,zlotxo,xhamsterthai,fourslot,termgameonline,ufa9988,ufabett,serviceufaUFABETแทงบอลสล็อตSLOTXOjokerjoker gamejoker slotjoker gamingบาคาร่าบาคาร่าออนไลน์UFABETแทงบอลสล็อตSLOTXOjokerjoker gamejoker slotjoker gamingบาคาร่าบาคาร่าออนไลน์
อัพเดทล่าสุด : 15 พฤษภาคม 2021